Thursday, October 1, 2009

รู้เท่าทันอาการนั่งเครื่องบินนาน ๆ

เครื่องบิน

รู้เท่าทันอาการนั่งเครื่องบินนาน ๆ
(สำนักข่าวไทย)

What happen when....

I'm on a long haul flight?

1.หูอื้อ ตอนที่เครื่องทะยานขึ้นฟ้า ความกดอากาศภายในเครื่องจะลดลง ซึ่งส่งผลให้ก๊าซในร่างกายเกิดการขยายตัว การเปลี่ยนแปลงความกดอากาศนี้จะไปอัดอากาศที่อยู่หลังเยื่อแก้วหูลงไป ตามท่อด้านหลังปากคุณ ส่งผลให้เกิดอาการหูอื้อ และได้ยินอะไรไม่ชัดเจน เพื่อให้การได้ยินกลับมาเป็นปกติ ให้คุณเอามือบังจมูกไว้แล้วพ่นลมหายใจออกทางรูจมูกเพื่อบรรเทาก๊าซที่อยู่ ภายในร่างกาย แต่อย่าลืมปิดปากให้สนิทล่ะ

2. ว่ากันว่าอากาศบนเครื่องบินแห้งกว่าในทะเลทรายเสียอีก จึงไม่ต้องแปลกใจถ้านั่งเครื่องบินนานๆ แล้วรู้สึกว่าผิวแห้ง คอแห้ง เหมือนขาดน้ำ ไดอานา แฟร์ไซลด์ ผู้เขียนหนังสือ Jet Smarter บอกว่า "โดยทั่วไปแล้วอาการสูญเสียน้ำจากการนั่งเครื่องบินนานๆ เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง" ทางแก้คือ ดื่มน้ำประมาณ 30 มิลลิลิตร ทุกชั่วโมง และหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ และแอลกอฮอล์

3. แค่แก้วเดียวก็พอ งานวิจัยของ Flyana.com ระบุว่า การดื่มของมึนเมา 2 หรือ 3 แก้ว บนเครื่องมีผลต่อร่างกายคุณ เทียบเท่ากับการดื่ม 4-5 แก้ว บนพื้นโลก นั่นเป็นเพราะการนั่งเครื่องบินนาน ๆ ทำให้ออกซิเจนไหลเวียนเข้าสู่สมอง ไม่สะดวกอยู่แล้ว แอลกอฮอล์จะยิ่งมีฤทธิ์ไปขัดขวางกระบวนการนี้เข้าไปใหญ่ แบบนี้ควรต้องดื่มอย่างมีสติ

4. ระวังภาวะพร่องออกซิเจน อากาศบนเครื่องบินซึ่งวนเวียนอยู่อย่างเดิม โดยไม่ได้รับการถ่ายเท บวกกับความกดอากาศต่ำในห้องโดยสาร ส่งผลให้ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดลดลง จนเกิดภาวะพร่องออกซิเจน แฟร์ไซลด์ บอกว่า "สำหรับพวกนักบินไม่ต้องห่วง เพราะพวกเขาได้รับออกซิเจนมากกว่าผู้โดยสารถึง 10 เท่า ภาวะพร่องออกซิเจนทำให้เกิดอาการต่าง ๆ รวมถึงภาวะการมองเห็นบกพร่อง" นี่เป็นอาการระยะสั้น เพราะทันทีที่เท้าคุณแตะถึงพื้น อาการนี้ก็จะหายไปเอง

5. ลิ่มเลือดอุดตันถามหา ก่อนขึ้นเครื่องดูเหมือนว่ารองเท้าที่คุณสวมยังพอดีเป๊ะ แต่หลังจากที่นั่งเครื่องบินไปนานๆ คุณกลับรู้สึกว่ารองเท้าเริ่มคับ นั่นเป็นเพราะ "การนั่งเครื่องบินเป็นเวลานาน ๆ ทำให้เลือดมาคั่งอยู่ที่บริเวณเส้นเลือดดำตรงส่วนขา ทำให้เท้าและข้อเท้าบวม ซึ่งนำไปสู่อาการ DVT (Deep Vein Thrombosis) หรือเลือดคั่งในหลอดเลือดดำส่วนลึก และอาจเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ การลุกขึ้นเดินจะทำให้เส้นเลือหดและบีบตัว ไล่เลือดให้กลับไปเลี้ยงหัวใจได้ตามเดิม" ดร.เซลดอน เชปส์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน ความดันโลหิต แนะนำ

6.อาการเพลียไม่จางหาย เมื่อเท้าของคุณแตะถึงพื้นแล้ว อย่าเพิ่งวางใจไป เพราะว่าร่างกายคุณยังปรับตัวไม่ทัน การเดินทางข้ามเขตเวลาที่แตกต่างกันส่งผลให้ร่างการเกิดอาการ Jet lag หรือ อาการอ่อนเพลียจากการเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นเวลานาน คุณจะเหนื่อยและอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก กรณีที่แย่สุด ๆ คือ คุณอาจนอนไม่หลับและท้องผูกร่วมด้วย แนะนำว่าให้พยายามนอนเอาแรงบนเครื่องบิน ด้วยการกินกล้วยก่อนเครื่องจะขึ้น เพราะกล้วยอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่ชื่อ ทริปโตฟาน ซึ่งทำให้คุณหลับง่ายขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

0 comments: