Wednesday, December 23, 2009

น้ำยาบ้วนปากจำเป็นจริงหรือ

น้ำยาบ้วนปาก


น้ำยาบ้วนปากจำเป็นจริงหรือ (Mcot)

น้ำยาบ้วนปากเป็นของเหลวที่มีส่วนช่วยในการทำความสะอาดช่องปาก แต่เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากเท่านั้น ไม่ใช่วิธีทดแทนการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟัน การบ้วนปากเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ที่จะขจัดเศษอาหารที่ตกค้างทั้งหมดได้ แต่ใช่เพื่อลดเชื้อโรคภายในช่องปาก ระงับกลิ่นปาก (ชั่วคราว) ทำให้ปากชุ่มชื้นสดชื่นจากรสและกลิ่นของน้ำยา

น้ำยาบ้วนปากมีหลายชนิด ควรเลือกใช้ชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือมีน้อยที่สุด เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อเยื่อบุช่องปาก ทั้งยังให้ความรู้สึกแสบช่องปากอีกด้วย หลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีส่วนผสมของกรดเพราะจะทำให้ผิวฟันกร่อน เคลือบฟันบางลง และเกิดอาการเสียวฟันตามมาได้

เราสามารถทำน้ำยาบ้วนปากได้เองง่าย ๆ โดยใช้เกลือป่นประมาณครึ่งช้อนชาถึงหนึ่งช้อนชา ละลายในน้ำอุ่นค่อนแก้ว ใช้บ้วนปากได้ดี ประหยัด และปลอดภัย


ข้อแนะนำเพิ่มเติม
ก่อนใช้ต้องศึกษาส่วนผสมและวิธีใช้ข้างขวดให้ดีก่อน ให้ใช้ในปริมาณพอเหมาะ ระยะเวลานานพอควร ถ้าเป็นแบบเข้มข้นควรเจือจาง เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแสบร้อน ก่อนใช้ควรขจัดเศษอาหารให้หมดเสียก่อน เพื่อให้น้ำยาสัมผัสช่องปากได้ทั่วถึงและเต็มประสิทธิภาพ

หากเรามั่นใจว่า ทำความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้ดีพอแล้ว การใช้น้ำยาบ้วนปากก็ถือว่าไม่จำเป็น...ดังนั้นจะใช้หรือไม่ แล้วแต่เห็นสมควร


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


[ ... ]

Tuesday, December 22, 2009

ระวัง...สารเคมีจากชุดชั้นในสีดำ

ชุดชั้นใน



ระวัง...สารเคมีจากชุดชั้นในสีดำ (Lisa)

จากการศึกษาของนิตยสาร Öko-Test ในประเทศเยอรมนีที่ทำการทดสอบชุดชั้นในสีดำ 25 ตัว พบสารก่อมะเร็ง เนื่องจากชุดชั้นในสีดำบางยี่ห้อมีสารเคมีสีดำในปริมาณสูง ซึ่งเป็นที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นตัวก่อมะเร็ง เพราะเมื่อผู้สวมใส่มีเหงื่อออกสารเคมีก็จะตกสีออกมา ทำให้ผิวหนังได้รับสารเคมีอันตราย และมันจะกระตุ้นให้เกิดมะเร็งได้

นอกจากสารเคมีสีดำก็ยังพบสารอันตรายที่ชื่อว่า Diethyhexylpthalate (DEHP) ซึ่งเป็นตัวยึดทรงชุดชั้นใน สารตัวนี้ติดอันดับในรายการสารอันตรายที่ทางสหภาพยุโรประบุไว้ เพราะเป็นสารก่อมะเร็ง และเป็นสารต้องห้ามสำหรับของเด็กเล่นและผลิตภัณฑ์ทารก

แต่สาว ๆ ที่มีชุดชั้นในสีดำก็อย่าเพิ่งตกใจจนต้องโยนชุดชั้นในสีดำทิ้ง ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่า หากซื้อชุดชั้นในสีดำมา ก็จะต้องซักล้างให้สะอาดเกลี้ยงเกลาก่อนใส่ทุกครั้ง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
[ ... ]

Monday, December 21, 2009

โรคเหงาระบาดได้


โรคเหงา

โรคเหงาระบาดได้ (ไทยโพสต์)


นักวิจัยในสหรัฐพบว่า ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวเดียวดายสามารถแพร่ระบาดไปยังคนอื่นได้ ทำนองเดียวกับไข้หวัดใหญ่ ซึ่งผู้หญิงมีโอกาสมากกว่าผู้ชายที่จะ "ติดเชื้อ" นี้

งานวิจัยของทีมจากมหาวิทยาลัยชิคาโก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก พบว่า คนที่เหงามักแพร่ความรู้สึกซึมเศร้าแก่คนรอบตัว ซึ่งในที่สุดคนเหล่านี้จะแยกตัวออกจากสังคม

จอห์น คาซีออพโป นักจิตวิทยาของ ม.ชิคาโก หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า คนที่เหงาจะแพร่เชื้อไปยังเพื่อน ๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ ขณะเจ้าตัวเองก็จะมีเพื่อนน้อยลง ๆ เพื่อนที่เหลือนั้นก็จะพากันเหงา และสูญเสียเพื่อนเช่นกัน

เนื่องจากความเหงาเกี่ยวข้องกับทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ซึ่งทำให้อายุของคนเราสั้นลง เขาบอกว่าเราควรตระหนักถึงเรื่องนี้ และช่วยเหลือคนที่เหงาก่อนที่คนเหล่านั้นจะปลีกตัวออกจากสังคม

งานชิ้นนี้ได้ศึกษาข้อมูลในโครงการติดตามโรคหัวใจ ซึ่งได้ศึกษาความเสี่ยงของโรคหัวใจร่วมหลอดเลือดในคนไข้กว่า 5,000 รายนับแต่ปี 2491 ซึ่งโครงการนี้ได้ขยายรวมถึงคนรุ่นที่สองอีก 5,124 คน

นักวิจัยพบว่าเมื่อคนเรารู้สึกเหงา ก็จะรู้สึกเชื่อใจไว้ใจคนอื่นน้อยลง และทำให้ยากแก่การสร้างมิตรภาพให้เกิดขึ้น

นักวิจัยบอกว่า โดยธรรมชาติแล้วสังคมมักกีดกันคนแบบนี้ออกไป ซึ่งพบได้ในการทดลองกับลิง ฉะนั้น จึงต้องหาทางรับมือกับความเหงาก่อนที่จะแพร่เชื้อไปยังคนอื่น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
[ ... ]

Sunday, December 20, 2009

เชื้อก่อโรคในพริกแกง


พริกแกง

เชื้อก่อโรคในพริกแกง (ไทยรัฐ)

"แกง" เป็นอาหารคาวที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน ไม่ว่าจะปรุงเป็นอาหารกินกันเองในครัวเรือน หรือปรุงเป็นแกงเผ็ด แกงส้ม แกงปลา แกงเขียวหวาน หรือผัดพริกแกงชนิดต่าง ๆ ตักขายเป็นแกงถุง ตักราดข้าว ให้เลือกรับประทานอย่างหลากหลาย

ปัจจุบัน ทั้งพ่อครัว แม่ครัว พ่อค้า แม่ขาย ไม่นิยมทำพริกแกงกันเอง แต่จะนิยมซื้อตามท้องตลาดสด ที่ทำเป็นพริกแกงสำเร็จรูปชนิดต่าง ๆ ตักขายอยู่แล้ว หรือไม่อาจจะไปหาซื้อน้ำพริกแกงสำเร็จรูปบรรจุถุง จากซุปเปอร์มาร์เกต หรือห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ มาใช้

แม้ว่าพริกแกงจะเป็นอาหารคาวประจำบ้านของคนไทยมานาน แต่หากการผลิตใช้วัตถุดิบ อุปกรณ์ ภาชนะบรรจุที่ไม่สะอาด หรือมีกรรมวิธีการผลิตที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจทำให้พริกแกงเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ เนื่องจากการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค เช่น เชื้อบาซิลลัส ซีเรียส เป็นสาเหตุทำให้อาหารเป็นพิษ เกิดอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร 2 แบบ

คือแบบที่ทำให้ผู้ป่วยท้องร่วง ปวดท้องและถ่ายอุจจาระเหลว อาจมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย

แบบที่สองจะทำให้ผู้ป่วยอาเจียน เริ่มจากคลื่นไส้ ปวดท้องและท้องร่วง หลังจากกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อบาซิลลัส ซีเรียสเข้าไป

วันนี้ "มันมากับอาหาร" ออกสุ่มเก็บตัวอย่างพริกแกงชนิดต่าง ๆ จำนวน 5 ตัวอย่าง เพื่อนำมาวิเคราะห์หาสารปนเปื้อนของเชื้อบาซิลลัส ซีเรียส

ผลปรากฏทุกตัวอย่างปนเปื้อนเชื้อชนิดนี้และมีพริกแกงถึง 3 ตัวอย่าง ที่พบว่ามีเชื้อตัวนี้ปนเปื้อน เกินมาตราฐานของกระทรวงสาธารณสุขไทย ที่กำหนดให้ในแกงและน้ำพริกต่าง ๆ มีเชื้อบาซิลลัส ซีเรียส ปนเปื้อน ได้ไม่เกิน 1,000 ในตัวอย่างพริกแกง 1 กรัม

พริกแกง

ทางที่ดีควรนำมาปรุงให้สุกก่อนรับประทานทุกครั้ง และรีบประทานขณะที่ยังร้อนหรือปรุงสุกใหม่ ๆ

เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง...!!!.



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
[ ... ]