Saturday, December 19, 2009

คนไทย กับการกิน พาราเซตามอล เกินขนาด

ยา พาราเซตามอล

คนไทย กับการกิน พาราเซตามอล เกินขนาด (อสมท)

ซองยาพาราเซตามอลมักระบุให้กิน 2 เม็ดทุก 4 -6 ชั่วโมง ถ้าปฏิบัติตามนั้นจริงแปลว่าผู้ป่วยกินยาพาราวันละ 12 เม็ด!

พาราเซตามอล ซึ่งคนไทยมักเรียกยานี้สั้น ๆ ว่า "พารา" เป็นยาแก้ปวด ลดไข้ ที่ใช้กันบ่อยที่สุดทั้งจากการสั่งใช้โดยแพทย์ หรือการซื้อหามาเพื่อรักษาตนเอง แต่กลับเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อว่าคนไทยมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับยานี้เกินขนาด ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง

โดยทั่วไปพาราเซตามอลจัดเป็นยาแก้ปวด ลดไข้ ที่มีอันตรายจากการใช้น้อยกว่ายาแก้ปวด ลดไข้ ชนิดอื่นเช่นแอสไพริน เนื่องจากแอสไพรินมีผลยับยั้งการจับกลุ่มของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดออกแล้วหยุดยาก จึงห้ามใช้ลดไข้ในคนที่เป็นไข้เลือดออก และห้ามใช้แก้ปวดภายหลังการผ่าตัดหรือถอนฟัน

แอสไพรินยังทำให้เกิดแผลที่กระเพาะอาหาร หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร อาเจียนเป็นเลือด หรือกระเพาะอาหารทะลุได้ แต่พาราเซตามอลไม่มีอันตรายดังกล่าว ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงต่าง ๆ ของแอสไพรินมากกว่าผู้ใช้ยาที่มีอายุน้อย ดังนั้นสมาคมแพทย์ผู้รักษาผู้สูงอายุแห่งสหรัฐอเมริกา จึงแนะนำให้ชาวอเมริกันที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ใช้พาราเซตามอลเป็นยาหลักในการบรรเทาปวด

นอกจากนี้สมาคมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคข้อในหลายประเทศทั่วโลก ต่างแนะนำให้ใช้พาราเซตามอลเป็นยาขนานแรก กับผู้ที่มีอาการปวดข้อจากโรคข้อเข่าเสื่อมแทนการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน (บรูเฟน) ไดโคลฟีแนค (โวลทาเรน) ซีลีค็อกสิบ (เซเลเบร็ก) หรือ อีโตริค็อกสิบ (อาร์ค็อกเซีย) เนื่องจากบรรเทาปวดได้พอ ๆ กันแต่มีความปลอดภัยกว่ามาก

พาราเซตามอล ยังเป็นยาที่ควรเลือกใช้เป็นอันดับแรกในเด็ก ในผู้ที่เป็นโรคไต ในผู้ที่เป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร ในผู้ที่เป็นหอบหืด ซึ่งอาจแพ้ยาในกลุ่มแอสไพรินได้ง่าย ตลอดจนผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่ ซึ่งต่างเป็นข้อห้ามใช้ของแอสไพรินทั้งสิ้น พาราเซตามอลจึงมีที่ใช้กว้างขวางทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

อันตรายที่สำคัญที่สุดของพาราเซตามอลคือ การเกิดพิษต่อตับ ในประเทศสหรัฐอเมริกาการกินพาราเซตามอลเกินขนาด เป็นสาเหตุสำคัญอันดับหนึ่งของการเกิดตับอักเสบเฉียบพลัน จนทำให้ตับวายซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต หรือต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

0 comments: