Wednesday, November 5, 2008

ซีสต์เต้านมที่สาวๆควรรู้


สาว ๆ เคยลองคลำสำรวจความผิดปกติของเต้นนมกันบ้างหรือเปล่า วิธีตรวจก็ไม่ยากเพียงนอนลงยกแขนข้างหนึ่ง แล้วใช้ปลายนิ้วมือ อีกข้างหนึ่งคลำให้ทั่ว หากคลำพบสิ่งผิดปกติ เช่น มีก้อนเล็กหรือก้อนใหญ่ที่เต้านมก็ควรไปพบแพทย์ อย่าอายหมอ อย่ามั่วนิ่งนอนใจ เพราะมันอาจไม่ใช่ซีสต์ธรรมดาที่ยุบไปได้เอง แต่มันอาจเป็นซีสต์ที่ยุบหนอพองหนอ เรื้อรังหรือเป็นมะเร็งเต้านมก็ได้ จะเห็นได้ว่าสาว ๆ ในปัจจุบันจะเป็นกันเยอะควรมาศึกษาไปพร้อมกันว่าซีสต์เต้านมเกิดขึ้นอย่างไร

คำแนะนำทั่วไปในการให้วัคซีน

เป็น ที่ทราบกันอยู่แล้วว่า สาว ๆ จะต้องมีรอบเดือน และรอบเดือนนี่แหละที่บทบาทสำคัญในการทำให้ฮอร์โมน เพิ่มมากขึ้น และตัวรังไข่จะถูกกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมพร้อมที่จะมีไข่ตกและเตรียมให้มีการฝังตัวของรังไข่ เมื่อมีการตั้งครรภ์ต่อมน้ำนมก็จะพองตัวขึ้นด้วยเพื่อเตรียมผลิต น้ำนม และเมื่อฮอร์โมนลดลง ประจำเดือนหมด ต่อมน้ำนมก็ จะยุบลง แต่ถ้าต่อมน้ำนมพองตัวแล้วไม่ยุบลงก็จะเกิดเป็นซีสต์ ขึ้นมา ซึ่งซีสต์จะมีหลายขนาด คือ มีขนาดตั้งแต่ 1 มิลลิเมตร จนถึงหลาย ๆ ซม. ถ้าเป็นซีสต์ขนาดเล็กก็มักจะยุบเองได้ แต่ ซีสต์บางชนิดมีความผิดปกติคือไม่ยุบตัวจึงจำเป็นต้องรักษา หรือซีสต์บางชนิดก็จะไม่หายเอง จะเป็นเรื้อรัง

เมื่อเกิดความกังวลและรู้สึกไม่สบายใจ สาว ๆ ควรไป พบแพทย์ โดยแพทย์อาจส่งไปตรวจทำ X RAY Mammogram หรือใช้เข็มฉีดยาเจาะและดูดออกมา หากน้ำที่ออกมาเป็น สีขุ่นใส ๆ สีน้ำนม ก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ถ้าน้ำมีสีเลือดจาง ๆ


ควร ระวังเพราะอาจมีเซลล์มะเร็งมาเกี่ยวข้อง แต่ถ้าแพทย์ แน่ใจว่าซีสต์ที่ตรวจพบไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เป็นมะเร็ง ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดให้มีแผลเป็น แต่จะใช้วิธีเจาะและดูดให้ ก้อนซีสต์ยุบตัวลง แต่หากซีสต์ที่พบมีเนื้อปนอยู่หรือเป็น ซีสต์เนื้อ แพทย์จะต้องผ่าตัดหรือเจาะเนื้อเพื่อนำไปพิสูจน์ว่า เป็นมะเร็งหรือไม่ และเมื่อเคยเป็นซีสต์มาแล้วก็อาจจะเป็นใหม่ ที่จุดเดิม หรือที่ใหม่ก็ต้องหมั่นตรวจเช็คตามแพทย์นัด

สาว ๆ อย่ากังวลกับการเป็นซีสต์ เพราะในปัจจุบัน ซีสต์ไม่ใช่สิ่งน่ากลัว อีกทั้งเครื่องมือแพทย์มีความทันสมัย สาว ๆ ไม่ต้องกลัวว่าผ่าแล้วจะมีแผลเป็น แต่ก็ควรระวัง และตรวจอยู่บ่อย ๆ เพื่อให้มั่นใจแค่ว่าเราเป็นซีสต์ เพื่อจะ ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง


วารสารวิชัยยุทธ ฉบับ สุขภาพสตรีและเด็ก
ฉบับที่ 12

โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์วิชัยยุทธ

0 comments: